เว็บไซต์ :
Facebook:
ภัยแล้งถือเป็นวิกฤตที่น่ากลัวสำหรับเกษตรกรทุกคน
เพราะเมื่อน้ำน้อย นั่นหมายความว่าผลผลิตก็จะต้องน้อยตามไปด้วย
ทุกวันนี้เกษตรกรหลายคนจึงหันมาปลูกพืชที่ไม่ต้องใช้น้ำมากอย่าง กันแทน
เป็นพืชที่ให้ผลผลิตดี ที่สำคัญยังใช้น้ำน้อย และสามารถอยู่ได้ถึง 4 ปีโดยไม่ต้องปลูกใหม่
แต่การจะปลูกอ้อยให้ได้ผลดี ในช่วงหน้าแล้งของภาคอีสาน ก็จำเป็นต้องมีตัวช่วย
และวันนี้
โพลิเมอร์พีดี100ก็มีเทคนิควิธีการปลูกอ้อยให้ได้ผลผลิตดี แม้จะปลูกในผ่าแล้งมาฝากครับ
เทนนิคดังกล่าวคือ การใช้
คือ สารโพลีอะคาเลต โพลีอะคริลาไมด์ และโพแทสเซียม ใช้เฉพาะการเกษตร
เป็นวัสดุที่มีความสามารถในการดูดซึมสูงมาก ปลอดสารพิษไม่เป็นอันตราย เปรียบเสมือน
มีโครงสร้างขนาดใหญ่หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สารอุ้มน้ำ การดูดน้ำจะเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก
จะเริ่มดูดน้ำชัดเจนหลังจาก 5 นาทีเป็นต้นไป หรือเมื่อแช่ทิ้งไว้ 4-6 ชม. หรือทิ้งไว้ข้ามคืน
คือดูดน้ำได้ไม่น้อยกว่า 200-400 เท่า (ขึ้นอยู่กับสภาพน้ำความเป็นกรด-ด่างของน้ำ)
การนำโพลิเมอร์ที่ดูดน้ำเต็มที่แล้วไปใส่ในหลุมปลูกป่า ยางพารา ปาล์ม อ้อย ต้นไม้ และไม้ผล ฯลฯ
เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนพื้นดินที่แห้งแล้ง ดินก็จะดูดน้ำจากโพลิเมอร์ รากต้นไม้จะได้น้ำจากโพลิเมอร์
ที่ต้องใช้น้ำเป็นตัวทำละลายจากดินอีกต่อหนึ่ง เมื่อพื้นดินได้รับน้ำเพิ่มเข้ามาก็จะถูกโพลิเมอร์ดูดเก็บไว้ใช้เมื่อพื้นดินแห้งแล้ง
สารโพลิเมอร์อยู่ได้นานถึง (1 - 2 ปี) หรืออาจจะนานกว่านั้นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ด้วย
จึงทำให้พื้นดินมีความชุ่มชื้นแม้ในฤดูแล้ง ส่งผลให้ป่า ต้นไม้ และต้นยางพาราเจริญเติบโตอย่างงดงาม
และลดอัตราการตายเนื่องจากภัยแล้งที่นับวันจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
- ใช้
โพลิเมอร์พีดี 100 เบอร์ A แช่น้ำไว้ค้างคืน โดยใช้อัตราส่วนโพลิเมอร์ 1 กิโลกรัม : อ้อย 1 ไร่
(การแช่น้ำทิ้งไว้จะช่วยในการพองตัว และขยายขนาดโพลิเมอร์ ช่วยให้อุ้มน้ำได้ดีขึ้น)
- วางพันธุ์อ้อยลงไปในท้องร่อง นำ
โพลิเมอร์พีดี 100 ที่แช่น้ำแล้ว ไปราดรดบนพันธุ์อ้อยที่วางอยู่ในร่องแปลง แล้วกลบด้วยดินข้างร่อง การใช้วิธีนี้ อ้อยจะสามารถแตกหน่อออกมาได้เป็นปรกติ แม้จะปลูกผ่าแล้ง
การปลูกด้วยวิธีนี้ จะเน้นการใช้สารอุ้มน้ำ (โพลิเมอร์) เป็นตัวช่วยในการให้ความชุ่มชื้น ให้อ้อยสามารถเจริญเติบโตไปตลอดจนถึงอายุการเก็บเกี่ยว
โทร :
Line : เว็บไซต์ :
Facebook: