Author Topic: เลือกเครื่องซักผ้าแบบไหนประหยัดไฟ ประหยัดน้ำ  (Read 66 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

guupost

  • Hero Member
  • *****
  • Posts: 988
    • View Profile



ในบรรดางานบ้านทั้งหมดการ “ซักผ้า” ถือว่าเป็นงานบ้านที่หนักหน่วง ใช้แรงและเวลาในการจัดการมากที่สุดสำหรับคุณพ่อบ้านแม่บ้านทั้งหลาย ที่หลังจากออกไปผจญงานหนักนอกบ้านแล้ว ยังต้องกลับมาทำซักเสื้อผ้าด้วยมือ “ เครื่องซักผ้า” เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เข้ามาช่วยให้ชีวิตประจำวันของเราให้ได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น ไม่ต้องเสียแรงเสียเวลาไปกับการซักผ้านานนับชั่วโมง ยิ่งในปัจจุบันเครื่องซักผ้าแบรนด์ต่างๆ พากันออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานที่ช่วยขจัดปัญหาจุกจิกกวนใจ เช่นว่า ระบบจ่ายน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มอัตโนมัติ Auto Dosing System (ADS) ของ ที่ช่วยจ่ายน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มในปริมาณที่เหมาะ ทำให้ผ้าสะอาด หอมนุ่ม และลดปัญหาสารตกค้างและการอุดตันของท่อ เป็นต้น

แต่แม้ว่าเครื่องซักผ้าจะเป็นตัวช่วยที่มีประโยชน์มากแค่ไหน คุณพ่อบ้านแม่บ้านหลาย ๆ ท่านก็ยังคงลังเลใจที่จะเลือกซื้อเครื่องซักผ้าไว้ที่บ้าน เหตุเพราะยังมีความเข้าใจว่า เครื่องซักผ้าจะกินน้ำกินไฟทำให้ค่าใช้จ่ายภายในบ้านสูงขึ้น ซึ่งที่จริงแล้ว มีวิธีที่จะเลือกเครื่องซักผ้าให้ตอบสนองการใช้งาน แล้วยังช่วยประหยัดไฟ ประหยัดน้ำได้อีกด้วย



การเลือกขนาดของเครื่องซักผ้าให้เหมาะสมกับจำนวนของเสื้อผ้าที่ต้องซักในแต่ละครั้ง จะช่วยให้ประหยัดไฟ ประหยัดน้ำได้ดี ซึ่งขนาดของเครื่องซักผ้าที่เราพูดถึง คือ ความจุของตัวถังเครื่องซักผ้า (มีหน่วยเป็นกิโลกรัม) โดยแบ่งตามปริมาณได้ดังนี้
- ความจุ 5-7 กิโลกรัม ซักเสื้อผ้าได้ประมาณ 25-30 ชิ้น
- ความจุ 7-9 กก. ซักเสื้อผ้าได้ประมาณ 36-45 ชิ้น
- ความจุ 9-11 Kg. ซักเสื้อผ้าได้ประมาณ 46-65 ชิ้น
- ความจุ 11 กก. ขึ้นไป ซักเสื้อผ้าได้ประมาณ 56 ชิ้น ขึ้นไป


ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ที่ติดไว้บนเครื่องซักผ้าเป็นเครื่องหมายแจ้งว่า เครื่องซักผ้าเครื่องนั้นได้ผ่านการทดสอบจาก สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (สฟอ.) เรียบแล้ว และในปัจจุบันบนฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ก็มีการเพิ่มดาวขึ้นมาบนฉลาก ตั้งแต่ 1 ดาว ไปจนถึง 4 ดาว แสดงถึงประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานที่มากขึ้นตามจำนวนดาวที่ได้รับนั่นเอง


มอเตอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) เป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาทำหน้าที่ควบคุมระบบมอเตอร์ ซึ่งจะต่อตรงกับตัวเครื่องซักผ้าโดยไม่มีสายพานอีกต่อไป ทำให้เครื่องซักผ้าสามารถหมุนได้หลายทิศทางมากขึ้น ทำความสะอาดได้ดีขึ้น ประหยัดพลังงานเยอะขึ้น ซึ่ง ที่มีเทคโนโลยีดิจิทัลอินเวอร์เตอร์ สามารถประหยัดพลังงานได้ถึง 40% เลยทีเดียว



เครื่องซักผ้าฝาหน้าใช้น้ำในการซักผ้าน้อยกว่ารุ่นฝาบน

เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบให้สามารถควบคุมปริมาณน้ำให้พอดีกับปริมาณของเสื้อผ้า จึงสามารถประหยัดน้ำได้มากกว่าเครื่องซักผ้าแบบฝาบน ตัวอย่างเช่น ที่มีเทคโนโลยีที่ช่วยให้สามารถประหยัดน้ำได้มากถึง 2 ใน 3 หากเทียบกับเครื่องซักผ้าฝาบนเลยทีเดียว

เครื่องซักผ้าอาจดูเหมือนเป็นสิ่งฟุ่มเฟือยเกินจำเป็น แต่ถ้าเทียบกับการที่เครื่องซักผ้าเข้ามาช่วยลดภาระเรื่องงานบ้าน ให้เรามีเวลาพักผ่อน หรือเอาเวลาไปทำอย่างอื่นได้มากขึ้น ก็ถือว่าคุ้มค่า และยิ่งได้เครื่องซักผ้าที่ประหยัดไฟฟ้า ประหยัดน้ำด้วยแล้ว ถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปแน่นอน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP1303
Logged