บ้านคือที่อยู่อาศัยที่สำคัญและจำเป็นที่สุดในชีวิตของมนุษย์ เป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ในการดำรงชีพ และบ้านคือสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในเวลาที่เรากลับมาจากไปทำงานไปเที่ยวหรือไปอยู่ที่อื่นเหนื่อยแค่ไหนเมื่อกลับมาบ้านได้นอนพักอย่างสบายใจ ทำให้คุณมีพลังเป็นการชาร์จแบตให้กับชีวิตตัวเองโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือก เพราะเป็นจังหวัดที่มีความเจริญ อากาศดีเที่ยวได้ตลอดทั้งปี มีสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจมากมาย และอยู่ท่ามกลางธรรมชาติจึงทำให้เชียงใหม่เป็นหนึ่งแลนด์มาร์คที่หลายคนเลือกซื้อกันมากขึ้นสำหรับเคล็ดลับที่ดีในการเลือกบ้านที่จะทำให้คุณมีความสุขตลอดชีวิตต้องเลือกอย่างไรไปดูกันเลย

 1.
ต้องเป็นโครงการที่น่าเชื่อถือเท่านั้น เนื่องจากว่าในยุคนี้มีผู้ประกอบการโครงการบ้านจัดสรรมากมายและมีโครงการที่เกิดขึ้นใหม่มากขึ้น แต่เราขอแนะนำโครงการบ้านจัดสรรที่มีความน่าเชื่อถือ มีประสบการณ์สูงรู้ใจผู้อยู่อาศัยว่าต้องการทำเลแบบไหนอยู่ใกล้แหล่งชุมชน แต่ไม่แออัดจนเกินไปซึ่งเคล็ดลับดีๆนี้หากคุณเลือกโครงการแสนสราญ ซึ่งเป็น ที่มีบ้านให้เลือกหลากหลายรูปแบบ และเป็นโครงการที่มีชื่อเสียงมีประสบการณ์ในวงการอสังหาริมทรัพย์มานานกว่า 20 ปีและผลการตอบรับทุกโครงการของเราได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้ามาโดยตลอดจึงทำให้โครงการใหม่มีลูกค้าสนใจเป็นจำนวนมาก และยังเป็นบ้านจัดสรรเชียงใหม่ในราคาที่คุ้มค่าอยู่ในโซนวิวเขวท่ามกลางธรรมชาติอบอุ่นและอยู่ใกล้กับแหล่งชุมชนไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล ตลาด หรือห้างสรรพสินค้า เป็นต้น

2.
ก่อนที่คุณจะเข้าไปดู จะต้องทำความเข้าใจกับรูปแบบในการดำเนินชีวิตของตัวเองและคนในครอบครัวก่อนว่า ชื่นชอบบ้านแนวไหนมากที่สุดตั้งอยู่ในทำเลแบบไหน ซึ่งบอกได้เลยว่าบ้านเชียงใหม่ในยุคนี้จะนิยมอยู่ท่ามกลางธรรมชาติตั้งอยู่บริเวณราบเชิงเขาปลอดภัยจากอุทกภัยไร้ปัญหาน้ำท่วม เป็นโครงการหมู่บ้านที่มีถนนเข้าออกโครงการง่ายเดินทางปลอดภัยด้วยระบบเข้าออกโครงการแบบคีย์การ์ด และที่สำคัญคือได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติโอบล้อมไปด้วยทิวเขาที่งดงามแนะนำเลยว่าโครงการบ้านจัดสรรเชียงใหม่ แสนสราญเป็นโครงการที่มีครบวงจรตอบโจทย์ในเรื่องlifestyle การใช้ชีวิตที่อยู่ในเมืองแต่ใกล้ชิดธรรมชาติมีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงโลเคชั่นเหมาะสมและตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ

3.
การเลือกซื้อ คุณจะต้องดูงบประมาณของตัวคุณเองว่ามีงบอยู่ที่เท่าไหร่ และเลือกราคาบ้านให้เหมาะสม จากนั้นคุณก็เปรียบเทียบโปรโมชั่นของแต่ละธนาคารได้เลยเพราะสินเชื่อการกู้ซื้อบ้านจะมีโปรโมชั่นและอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันออกไปคุณสามารถปรึกษากับทางโครงการก่อนได้เลย


หลังจากที่คุณเลือก ได้โครงการที่คุณต้องการแล้วแนะนำว่าจะต้องเตรียมตัวในการตรวจรับบ้าน ดังนี้

1.ตรวจภายนอกบ้าน ดูว่าประตูรั้วขอบตามมุมต่างๆ มีความละเอียดรอบคอบหรือไม่และตรวจสอบโครงสร้างของประตูว่าแข็งแรงหรือไม่

2.ดูพื้นที่รอบบ้าน ให้สังเกตข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วน

3.ดูโครงสร้างบ้าน ดังนี้
✓ผนังภายในบ้านและนอกบ้าน จะต้องมีความเรียบไม่มีรอยแตกร้าวเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาน้ำรั่วซึม ส่วนสีสามารถใช้ไฟสายส่องดูความเรียบเนียนได้
✓ดูประตูหน้าต่างตรวจสอบการรั่วซึมโดยการฉีดน้ำและดูว่าขอบมุมมีน้ำรั่วซึมหรือไม่
✓ดูที่กระเบื้องต้องเรียกไม่บิ่นแล้วเสียงต้องหนักแน่น เพื่อตรวจสอบความหนาแน่นของปูนที่ฉาบกระเบื้อง
✓ จะต้องตรวจสอบบันไดว่าแต่ละขั้นมีขนาดเท่ากันหรือไม่บันใดจะต้องมีความแข็งแรงไม่ยุบขอบมุมจะต้องเสมอ
✓ฝ้าหรือเพดานจะต้องเรียบไม่โค้งและทดสอบปัญหาการรั่วซึมของฝ้าและเพดานด้วย
✓ตรวจสอบห้องน้ำโดยจะต้องดูว่าในห้องน้ำมีรั่วซึมหรือไม่เช็คการใช้งานของชักโครกความเร็วในการระบายน้ำภายในชักโครก
✓ดูบ่อบำบัดน้ำเสียจะต้องมีสภาพดีไม่มีขยะอุดตันปั๊มน้ำจะต้องทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
✓ตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในบ้านทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นสวิตช์ไฟหรือเต้ารับและตรวจสอบตู้ไฟแต่ระบบไฟฟ้านั้นอันตรายมากควรให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ทดสอบจะดีที่สุด




และนี่คือเคล็ดลับในการเลือก ว่าจะต้องเลือกอย่างไรให้คุณมีความสุขที่สุดและอยู่ได้ยาวตลอดชีวิตบ้าน 1 หลังเปรียบเสมือนชีวิตทั้งชีวิตของคุณและคนในครอบครัว ดังนั้นการพิถีพิถันใส่ใจในการเลือกบ้านเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ขอแนะนำเลยว่าโครงการบ้านแสนสราญมีบ้านให้เลือกหลายแบบหลายสไตล์ เช่น บ้านNorth View มีการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ ความสุขที่ออกแบบได้ทุกฟังก์ชั่น ดีไซน์ให้มีความเรียบง่าย และน่าอยู่ มีความอบอุ่น บ้าน ณ Lanna ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว บ้านมีรสนิยมดี อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ บ้าน Grand Tropicana ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ The Quality Of Living แบบบ้านโมเดิร์นผสมผสานกับแบบทรอปิคัลอย่างลงตัว เป็นต้น ซึ่งบ้านแต่ละแบบมีความสวยงามผสมผสานกับความทันสมัยลงตัวใกล้ชิดธรรมชาติเลือกที่นี่คุ้มค่าใช้ชีวิตแบบ happy life ต้องที่นี่เท่านั้น

ลง BTS สะพานตากสิน แล้วออกที่ทางออกประตู 2 หลังจากนั้นสามารถเดินมาขึ้นเรือที่ท่าเรือสาทรเพื่อต่อ Shuttle Boat (ฟรี) เรือออกทุก 10 นาที


รถ BTS สายสีทองเปิดให้บริการ ตั้งแต่เวลา 06.00-24.00 มี 4 สถานี ได้แก่ สถานีกรุงธนบุรี สถานีเจริญนคร สถานีคลองสาน และประชาธิปก(ยังไม่เปิดให้บริการ)
สามารถนั่งสถานีใดก็ได้มาลงสถานีเจริญนคร เมื่อลงจากสถานีแล้วจะเจอทางเชื่อมกับไอคอนสยามพอดี

 ได้แก่
- : BTS สีลม เชื่อมต่อจาก BTS กรุงธนบุรี
- : ตั้งแต่เตาปูน - ราษฎร์บูรณะ ต่อกับ BTS ประชาธิปก
- : ตั้งแต่หัวลำโพง – บางบอน - มหาชัย เชื่อมต่อกับ BTS คลองสาน


หลังจากลงที่ MRT หัวลำโพง แล้วใช้ทางออกประตูที่ 1 จากนี้สามารถเลือกนั่งวินมอเตอร์ไซต์ไปท่าเรือข้ามฟากสี่พระยาหรือเลือกเดินไปก็ได้ โดยหลังจากที่ออกประตูที่ 1 ให้เลี้ยวซ้ายไปถนนมหาพฤฒาราม เดินเรียบคลองมาเรื่อย ๆ จะเจอสามแยก เลือกเดินตรงไปก็จะเจอสี่แยกไฟแดงสี่พระยา ให้เลี้ยวขวาไปถนนสี่พระยา เดินตรงมาเรื่อย ๆ จะเจอท่าเรือข้ามฟากสี่พระยา ทั้งหมดเป็นระยะทางประมาณ 1.3 กม. แล้วนั่งเรือฟรีไปลงไอคอนสยาม


หลังจากลงที่ MRT สีมลมแล้วให้นั่งต่อไปที่ BTS ศาลาแดง แล้วลง BTS สะพานตากสิน แล้วต่อเรือฟรีค่ะ


สามารถมาท่าเรือต่อไปนี้เพื่อนั่ง Shuttle boat ไปไอคอนสยามโดยตรง

*Shuttle Boat จะออกทุก 10 นาที ตั้งแต่เวลา 09.00-23.00 น.
 

 ได้แก่

*รถ shuttle bus ของไอคอนสยามหยุดบริการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 เป็นต้นไป* (ข้อมูล ณ วันที่ 30/12/2021)
 
  เดินทางได้หลายแบบขนาดนี้ แถมยังมีรถไฟฟ้าสายสีทองอีกยิ่งสะดวกไปใหญ่ นอกจากตัวห้างเองแล้วรอบ ๆ เองก็มีที่เที่ยว ที่กินอีกเยอะ เหมาะกับการอยู่อาศัยสุด ๆ Propso เลยจะพาทุกคนไปชมคอนโดปล่อยเช่าใกล้ไอคอนสยามกันค่ะ กระซิบว่าบางแห่งเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยนะคะ

Credit: https://www.propso.com/news/3_วิธีไป_iconsiam_แบบไม่หลง!!
 

Propso คือ เป็นเว็บไซต์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อที่ช่วยให้ ซื้อ-ขาย-เช่า ที่ดิน บ้าน คอนโดได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยมีทีมงานมืออาชีพ ปลอดภัย มีมาตรฐาน
จุดเด่นของ Propso

---

  นายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ อดีตเลขาธิการพรรคภราดรภาพ ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการศึกษาความเป็นไปได้ในการขุดคลองกระ(คลองไทย) เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจและสังคม (สคส.) กล่าวว่า เมื่อช่วงที่ผ่านมาตนได้ร่วมประชุมกับพล.อ.ต.ณัฎฐอรรจน์ ถวิลหวัง ประธานคณะกรรมการศึกษาความเป็นไปได้ในการขุดคลองกระ เพื่อแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการแห่งชาติ ศึกษาความเป็นไปได้ในการขุดคลองกระฯ ที่ก่อตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี 16 ตุลาคม 2544 (อนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการ แห่งชาติศึกษาความเป็นไปได้ในการขุดคลองกระ เพื่อแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจและสังคม) โดยที่ผ่านมาการศึกษาความเป็นไปได้ในการขุดคลองกระ(คลองไทย) มีความคืบหน้าเป็นอย่างมากและมีผลการดำเนินงานโดยสังเขปเป็นที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ซึ่งผลงานของคณะกรรมการแห่งชาติฯชุดดังกล่าว แม้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะตอบคำถามกระทู้ที่002ร.ของสมาชิกวุฒิสภาที่สอบถามผ่านราชกิจจานุเบกษาวันที่11ก.พ.2564ว่า คณะกรรมการแห่งชาติฯ ชุดดังกล่าวได้บรรจุอยู่ในบัญชีรายชื่อคณะกรรมการที่ยกเลิกของกระทรวงคมนาคมไปแล้ว


  " แม้ว่าคณะกรรมการแห่งชาติฯชุดดังกล่าว ได้สิ้นสุดสถานภาพลงแล้วเมื่อช่วงเดือนพ.ค.2548 ก็ตาม แต่คณะกรรมการดังกล่าวเป็นคณะกรรมการที่ถูกแต่งตั้งจากมติคณะรัฐมนตรีในยุคนั้น มิใช่กำเนิดขึ้นมาจากกระทรวงคมนาคมเพียงกระทรวงเดียว แสดงว่าผลการศึกษาจึงเป็นเรื่องที่มีความน่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างแท้จริง ต่อมาปี 2557 พล.อ.ต.ณัฎฐอรรจน์ ได้ตั้งคณะทำงานความร่วมมือยุทธศาสตร์การค้าไทยจีนของรัฐบาลไทยกับนายหวี่ ปิน ประธานกรรมการบริษัท จงจิ้นริชเวย์โฮลดิ้งประเทศไทย จำกัด และจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาเส้นทางสายไหมทางทะเลของประเทศไทยบริเวณคลองกระ รองรับการเปิดการค้าเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเป็นเส้นทางการค้าการลงทุนในกลุ่มประเทศเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ตามแนวทางการพัฒนาของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนที่แสดงต่อที่ประชุมเอเปค


  ในตอนนั้นประธานาธิบดีจีนได้ประชุมทวิภาคีกับพล.อ.ประยุทธ์ ยกวาระการพัฒนาเส้นทางสายไหมทางทะเลในศตวรรษที่21โดยตอนนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ได้ตอบรับในความคิดริเริ่มและพัฒนาเส้นทางสายไหมทางทะเลดังกล่าว และเป็นที่มาของการจัดตั้งศูนย์วิจิยและพัฒนาเส้นทางสายไหมทางทะเลของประเทศไทยบริเวณคลองกระห(คลองคอดกระหรือคลองไทย) ที่รัฐบาลไทยในอดีตมีมติอนุมัติให้ทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการขุดคลองกระ(คลองไทย)ปี 2544 เพื่อแก้ปัญหาวิกฤติและจึงเสนอให้ฟื้นการแต่งตั้งคณะกรรมการแห่งชาติขึ้นมาศึกษาวิจับความเป็นไปได้ในการขุดคลองกระ(คลองไทย) เป็นโครงการพัฒนาที่เป็นเมกกะโปรเจคของประเทศอีกชิ้นหนึ่งที่จะสร้างเจริญรุ่งเรืองด้านเศรษฐกิจและอื่นๆของประเทศไทยในอนาคต "


  นายพันธ์ยศกล่าวว่า นอกจากนี้สคส.ได้สร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศร่วมกับสมาคมมิตรภาพไทย-ลาว ซึ่งมีพล.อ.ต.ณัฏฐอรรจน์เป็นนายกสมาคม โดยสคส.และสมาคมมิตรภาพฯได้มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อใช้ในการป้องกันโควิด -19 ให้กับสปป.ลาว โดยมี ฯพณฯ แสง สุขะทิวง เอกอัครรัฐทูตสปป.ลาว ประจำประเทศไทยให้การต้อนรับและรับมอบอุปกรณ์ข้างต้น และในครั้งนั้นได้หารือกับเอกอัครรัฐทูตสปป.ลาว ประจำประเทศไทยเกี่ยวกับการค้า การลงทุน การคมนาคมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับสองประเทศในวันข้างหน้า โดยมีเรื่องการขุดคลองกระร่วมด้วย ซึ่งในตอนนั้นเอกอัครรัฐทูตสปป.ลาว ประจำประเทศไทยแสดงความสนใจในเรื่องนี้ด้วย



  "เส้นทางสายไหมทางทะเลคลองกระ(คลองไทย) จะเกิดประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจการค้าระหว่างไทยและจีน รวมถึงประเทศอื่นๆที่อยู่ในภูมิภาค หากการดำเนินการเสร็จสิ้น จะมีเรือสินค้าขนาดเล็ก-ขนาดใหญ่ใช้เป็นเส้นทางผ่านจากไทยไปยังประเทศฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ทุกวัน วันละไม่ต่ำกว่า 2,000 ลำ สามารถร่นระยะเวลาการเดินทางเส้นทางทะเล 3 เส้นทางเดิมได้ 7 วัน จากเส้นทางสายไหมที่ใช้ในปัจจุบัน (1.เส้นทางสายตะวันออกจากเซียะเหมินไปทางมหาสมุทรแฟซิฟิกถึงทวีปอเมริกา 2.เส้นทางสายใต้จากเซียะเหมินผ่านเกาะไหหลำ แหลมยวนเข้าอ่าวไทยและแหลมมลายู 3.เส้นทางสายตะวันตกจากเซียะเหมินลงมาทะเลจีนใต้ ผ่านช่องแคบมะละกาถึงแหลมกู๊ดโฮปของทวีปแอฟริกา )
  จากการสำรวจข้อมูลโลจิสติกการค้าจีนไทย พบว่า มีผู้ประกอบการธุรกิจสนใจตอบรับเข้าร่วมใช้เส้นทางสายไหมทางทะเลเส้นใหม่ของประเทศไทยแล้วสูงถึงร้อยละ60 ถือได้ว่าเส้นทางคลองกระ(คลองไทย) จะเป็นเส้นทางที่เปลี่ยนโลกและเปลี่ยนประเทศไทยในอนาคตไปอย่างสิ้นเชิง"
  นายพันธ์ยศกล่าวว่า ตนหารือกับพล.อ.ต.ณัฎฐอรรจน์และฝ่ายที่เกี่ยวพบว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกตอนนี้เปลี่ยนไปมากจากภาวะโควิด-19 ดังนั้นไทยต้องปรับตัวให้รองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ แม้ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ จะบอกว่าต้องใช้เวลาศึกษารอบด้านในเรื่องนี้ แต่ความจริงแล้วสภาผู้แทนราษฎรได้มีมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาการขุดคลองไทยและการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2563 และดำเนินการแล้วเสร็จแล้ว รอเพียงบรรจุวาระให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณา ตรงนี้ก็ชัดเจนระดับหนึ่งว่าสภาผู้แทนราษฎรสนใจเรื่องนี้เพราะไทยได้ประโยชน์

  "แนวคิดข้างต้นของกมธ.วิสามัญฯตรงกับตนและพล.อ.ต.ณัฎฐอรรจน์ ตนหวังว่าโครงการคลองกระนั้นน่าจะนำมาหารือกันใหม่โดยขอเชิญทุกภาคส่วนร่วมกันเป็นเจ้าภาพศึกษาเรื่องนี้คู่ขนานกับรายงานของกมธ.วิสามัญฯชุดข้างต้น จากนั้นจัดทำประชามติให้ทุกอย่างโปร่งใสว่าควรหรือไม่ควรขุดคลองกระหรือไม่ เพราะประเทศ-ประชาชนจะได้ประโยชน์หลายด้านเกี่ยวกับโครงการนี้ในวันข้างหน้าอย่างสูงสุด"


  นายพันธ์ยศกล่าวว่า ดังนั้นสคส. ได้จัดทำโครงการ "คลองกระ..เส้นทางเปลี่ยนโลก" เพื่อให้นักธุรกิจรุ่นใหม่และผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษา และถ่ายทอดแนวความคิดโครงการนี้ไปสู่รุ่นต่อๆไปในอนาคต ในปัจจุบันโครงการนี้ได้ดำเนินกิจกรรมมาแล้วหลายกิจกรรม และในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ตนและสคส.นำอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19แจกจ่ายให้หน่วยงานราชการและหน่วยงานอื่นๆ รวมถึงประชาชนในพื้นที่ห่างไกลด้วย เช่น มูลนิธิกู้ภัยหลวงพ่อวัดในกุฏิ-ที่ว่าการอำเภอกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ /มูลนิธิร่วมกตัญญู /โรงพยาบาลดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ และพื้นที่อื่นๆเพื่อให้คนไทยผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน

สนใจ สั่งซื้อ ผลิตภัณฑ์โทร.